วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไทยที่น่าสนใจในปี 2558 โดยเราจะเริ่มกันที่




1. เกาะตาชัย


เริ่มกันที่เกาะสุดฮอตซึ่งเพิ่งเปิดให้ท่องเที่ยวไม่นาน โดยได้รับการผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติสิมิลันในปี พ.ศ. 2541 แต่ความงามของท้องทะเล หาดทราย และบริสุทธิ์ ก็ทำให้ชื่อของ เกาะตาชัย ติดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตได้ไม่ยากเลย ซึ่งเสน่ห์อันดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกหนึ่ง คือ การเดินป่าเข้าไปดู ปูไก่ ปูน้ำจืดที่ชอบอาศัยอยู่ตามธารน้ำ มีลำตัวมีสีแดงสด ก้ามสีดำเหลือบน้ำเงิน และเวลาร้องจะมีเสียงคล้ายไก่ จึงเป็นที่มาของชื่อ (ควรจะปฏิบัติตามคำแนะนำของไกด์) สำหรับการเดินทางมาเที่ยวเกาะตาชัยนั้น จะเป็นแบบ One Day Trip เพราะนักท่องเที่ยวไม่สามารถพักบนเกาะได้




 2. เกาะล้าน


เรียกได้ว่าชื่อของ เกาะล้าน ไม่เคยจางหายไปไหนเมื่อมีการจัดอันดับความนิยม เพราะใกล้กรุงเทพฯ เดินทางสะดวกสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมหาดทรายและน้ำทะเลของเกาะก็สวยน่าเล่นที่สุด แหม…ใครจะคาดคิดว่าห่างจากพัทยามาเพียง 7 กิโลเมตร จะได้สัมผัสกับน้ำทะเลใสในโทนสีออกฟ้าเข้มราวทะเลฝั่งอันดามัน หาดทรายก็ขาวละเอียดนุ่มเท้าล่ะ (จริงไหม) นอกจากนี้ ที่พักเกาะล้าน ยังมีให้เลือกสรรมากมายตามความชอบอีกด้วย





3. เกาะช้าง


หากกล่าวถึงทะเลแถบภาคตะวันออก เกาะช้าง นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของนักเดินทางผู้รักทะเล ด้วยเพราะความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศทำให้เกาะช้างยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง เช่น หาดทรายขาว หาดแห่งนี้เนียนเรียบ เนื้อทรายละเอียดนุ่มเท้า รวมถึงยังเป็นศูนย์รวมของรีสอร์ทเก๋ ๆ ร้านอาหาร ผับฮิป ๆ มากมาย และถัดไปไม่ไปไกลก็เป็นที่ตั้งของหาดคลองพร้าว มีหาดทรายที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา และเหมาะอย่างยิ่งที่จะเล่นกิจกรรมทางน้ำ เพราะหาดนี้ไม่ลาดเอียง คลื่นลมสงบ รวมถึงเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงาม นอกเหนือจากนี้บริเวณเกาะช้างยังมีอีกหลายอ่าวที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน อย่างหาดไก่แบ้ อ่าวคลองสน อ่าวสับปะรด และหาดทรายยาว ฯลฯ






4. เขาใหญ่


เขาใหญ่ หรือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แหล่งท่องเที่ยวสุดคลาสสิกที่สามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะไม่ว่าจะฤดูไหนความงดงามของเขาใหญ่ก็แปรเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ จะร้อน ฝน หรือหนาวก็สวยไปซะหมด ซึ่งสถานที่ที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นธรรมชาติ เช่น น้ำตกเหวสุวัต, น้ำตกเหวนรก, น้ำตกผากล้วยไม้, หอดูสัตว์, จุดชมวิวผาเดียวดาย และอ่างเก็บน้ำสายศร เป็นต้น นอกจากนี้ บริเวณใกล้ ๆ เขาใหญ่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวชิค ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้ง Palio, Primo Piazza, Sheep Land, ตลาดน้ำเขาใหญ่, The Bloom by ทีวีพูล, The Pete Maze และเขาใหญ่ พาโนรามา ฟาร์ม ฯลฯ แถมที่นี่ยังมีที่พักเขาใหญ่เก๋ ๆ ให้เลือกสรรเพียบ อีกทั้งเมื่อขับรถเลยจากเขาใหญ่ไปประมาณ 70 กิโลเมตร คุณก็จะได้สูดโอโซนอันแสนบริสุทธิ์ ณ วังน้ำเขียว สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน






5. ดอยอ่างขาง


เพราะอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี แวดล้อมด้วยพรรณไม้และดอกไม้นานาชนิด ทำให้ ดอยอ่างขาง กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวฮอตฮิตในปี 2557 ได้ไม่ยากเลย อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวให้ได้ไปชื่นชมหลากหลาย เช่น สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง, สวนบอนไซ, จุดชมวิวกิ่วลม, พิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงที่ 1 (ฝาง) โดยเฉพาะการไปสัมผัสกับวิถีชีวิชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ณ หมู่บ้านขอบด้ง, หมู่บ้านนอแล และหมู่บ้านหลวง แต่ดูเหมือนว่าไฮไลท์ที่หลาย ๆ คนรอคอย คือ การไปเก็บสตรอว์เบอร์รีตามสวนต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมาย






6. ดอยอินทนนท์


ได้ชื่อว่าเป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย แต่ ดอยอินทนนท์ กลับเข้าถึงได้ง่ายและสะดวกสุด ๆ เพราะทุกที่สถานที่เที่ยวเด่นถูกเชื่อมต่อด้วยถนนลาดยางอย่างดี ทำให้นักเดินทางต่างก็อยากเดินทางไปพักผ่อนเสมอเมื่อมีโอกาส แต่สิ่งที่น่าสนใจของดอยนี้ไม่เพียงแต่เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศด้วยความสูง 2,565 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางเท่านั้น ด้วยสภาพภูมิประเทศ สภาพป่าที่หลากหลาย และอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะมีหมอกปกคลุมเกือบทั้งวัน บางครั้งน้ำค้างยังกลายเป็นน้ำค้างแข็ง สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้มีผู้มาเยือนที่นี่อย่างไม่ขาดสาย ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวก็มีอยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นสถานีวิจัยโครงการหลวงอินทนนท์, ตลาดม้ง, กิ่วแม่ปาน, หมู่บ้านม้งขุนกลาง, พระมหาธาตุนภเมทนีดล พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ, น้ำตกวชิรธาร, น้ำตกสิริภูมิ, น้ำตกผาดอกเสี้ยว, บ้านแม่กลางหลวง และจุดสูงสุดบนยอดดอยอินทนนท์ เป็นต้น ใครชอบเที่ยวสไตล์ไหนก็สามารถเลือกได้ตามใจได้เลย






 7. ม่อนแจ่ม


เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2552 แต่ชื่อของ ม่อนแจ่ม (อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่) ก็พุ่งทะยานติดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมทันที เพราะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ทิวภูเขาสลับกันไกลสุดลูกหูลูกตา อีกด้านเป็นแปลงปลูกพืชและไม้เมืองหนาวของโครงการหลวง และมีอากาศเย็นสบายตลอดปี มีหมอกยามเช้า ทำให้นักเดินทางต่างก็อยากไปชื่นชมด้วยตัวเองทั้งนั้น และการได้ไปชิมอาหารปรุงสด ๆ กับผลผลิตท้องถิ่นที่ปลูกเอง เคล้ากับทิวทัศน์กว้างไกลสบายตา ก็เป็นตัวขับเคลื่อนให้ใคร ๆ ก็อยากไปเยือน






 8. เชียงใหม่


เชียงใหม่ จะไม่ติดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตแห่งปี 2557 ได้อย่างไรล่ะ…จริงไหม เพราะที่นี่เป็นเหมือนศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภาคเหนือ เนื่องจากความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยว ทั้งทางด้านธรรมชาติอันงดงาม ด้านศิลปวัฒนธรรม และประเพณีของชาวเชียงใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์น่าประทับใจ และความพรั่งพร้อมในเรื่องสถานที่พักและบริการด้านการท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่หลากหลาย เป็นที่ดึงดูดคนมาท่องเที่ยวนับล้านคนในแต่ละปี โดยมีกิจกรรมท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการผจญภัยท้าทาย ให้เลือกทำมากมาย เช่น สักการะพระบรมธาตุ เยือนวัดเก่าแก่และเมืองโบราณ ขึ้นบอลลูน บินพารามอเตอร์ นั่งช้างชมธรรมชาติ ขับรถ ATV โหนรอกไปตามยอดไม้ ดูนก เที่ยวชุมชนเก่าแก่ ฯลฯ

 




9. เชียงคาน


เหมือนเวลาจะหมุนช้าลงเมื่อมาเยือน “เชียงคาน” คงไม่ใช่คำกล่าวอ้างที่ผิดนัก เพราะอำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดเลย แห่งนี้ยังคงอารยธรรมแห่งลุ่มน้ำโขง ที่ผสมผสานกับความทันสมัยของโลกปัจจุบันได้อย่างลงตัว ความเงียบสงบของเมือง ความน่ารักของผู้คน ที่ยังดำรงวิถีชีวิตแบบราบเรียบ และกลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้อย่างแนบแน่นดีเยี่ยม รวมไปถึงทัศนียภาพริมฝั่งโขงที่สวยงาม คงเป็นเอกลักษณ์สำคัญที่ทำให้นักเดินทางมักแวะเวียนไปต้องมนตร์เสน่ห์สถานที่แห่งนี้ไม่ขาดสาย




10. ภูทับเบิก


“นอนทับเบิก สัมผัสความหนาว ดูดาวบนดิน” คำกล่าวนี้ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยสักนิดเมื่อได้มา ณ ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่นิยมสัมผัสบรรยากาศหนาวเย็น วิถีชีวิตชาวเขา และแหล่งธรรมชาติบริสุทธิ์ เพราะที่นี่มีความสูงจากระดับทะเลประมาณ 1,768 เมตร มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์และเย็นสบายตลอดปี อีกทั้งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล ตอนเช้ามีกลุ่มเมฆและทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์สวยเกินบรรยาย รวมถึงมีหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง และสิ่งหนึ่งที่ใคร ๆ ก็อยากมาพบเห็นเมื่อมาภูทับเบิก คือ ทุ่งกะหล่ำปลีกว้างไกลสุดสายตา






11. สามพันโบก


สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี ประติมากรรมทางธรรมชาติสุดอลังการกลางลำน้ำโขง ที่ทางธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นมาให้เราได้ชมความมหัศจรรย์นี้ ซึ่งเป็นแก่งหินที่อยู่ใต้ลำน้ำโขงในช่วงฤดูน้ำหลาก เกิดจากแรงน้ำวนกัดเซาะ กลายเป็นแอ่งมากกว่า 3,000 แอ่ง หรือ 3,000 โบก โดยจะปรากฏให้เห็นในช่วงฤดูแล้งที่น้ำแห้งขอดเท่านั้น ทำให้นักเดินทางต่างรอคอยเวลาที่จะไปพบปะกับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สวยงามแปลกตา จนชาวบ้านเรียกว่าแกรนด์แคนยอนเมืองไทย และนอกจากความงามของแก่งหินขนาดใหญ่ในลำน้ำโขง วิถีชีวิตริมคลองสองฝั่งโขงก็งดงามไม่แพ้กัน






12. หัวหิน


หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศริมทะเลที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย และเป็นจุดหมายยอดนิยมอันดับต้น ๆ ในการท่องเที่ยวและพักผ่อนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ของคนกรุงเทพฯ มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและครบครัน อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวให้ไปเที่ยวชมอยู่หลายแห่ง เช่น ชายหาดหัวหิน, สถานีรถไฟหัวหิน, เขาเต่า, เขาตะเกียบ, ฟาร์มแกะดำหัวหิน, ตลาดน้ำหัวหิน, ตลาดโต้รุ่ง, วัดห้วยมงคล, สวนน้ำหัวหิน Black Mountain Water Park, เดอะเวเนเซีย และ Cicada Market เป็นต้น จึงถือเป็นเมืองท่องเที่ยวเปี่ยมเสน่ห์ที่สมบูรณ์แบบอีกแห่งหนึ่งในปัจจุบัน






 13. สวนผึ้ง


ด้วยอากาศที่เย็นสบาย แวดล้อมไปด้วยขุนเขาเขียวขจี และมีกิจกรรมให้ทำเยอะแยะ จึงทำให้ สวนผึ้ง ราชบุรี ยังคงครองใจเหล่าบรรดานักเดินทางเสมอ ๆ เมื่อมีเวลาว่างอยากไปพักผ่อนที่นี่จะอยู่ในลิสต์รายชื่ออันดับต้น ๆ ทั้งคู่แต่งงานที่ไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง คู่รักควงกันไปสวีทหวานเที่ยวชมบ้านหอมเทียน ครอบครัวพาเด็ก ๆ ไปถ่ายรูปกับแกะในฟาร์มหรือไปเที่ยวตลาดน้ำสวนผึ้ง เวเนโต้ หรือแก๊งเพื่อน ๆ นัดกันไปตะลุยยอดเขากระโจม เพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและสายหมอกกลางผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ เป็นต้น นอกจากนี้ สวนผึ้งยังเป็นแหล่งรวมของบูติกรีสอร์ทหลากรูปแบบ ตกแต่งเก๋ ๆ สามารถเลือกพักตามความชอบได้เลย เอาเป็นว่าใครอยากสูดอากาศบริสุทธิ์ เคล้าสายลมเย็น ๆ ไม่ควรพลาดจ้า



14. เกาะสมุย


ที่เกาะสมุยมันมีอะไร ที่ทำให้คุณนั้นต้องอยากไป ที่ทำให้คุณนั้นต้องติดใจมาชวนผม…บทเพลง เกาะสมุย ของ DEEP O SEA คงอยู่ในความคิดของคนที่ร่างกายต้องการทะเล หาดทราย สายลม และแสงแดด ซึ่งทะเลที่อยากไป ก็คือ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพราะเกาะแห่งนี้มีสีสันของความสนุก ความครึกครื้นของเสียงคลื่นและสายลมอยู่ทั่วไป รวมถึงมีหาดทรายสวยทรายขาวหลายแห่ง เช่น หาดเฉวง หาดนาเทียน หาดตลิ่งงาม และหาดละไม อีกทั้งความสวยงามทางธรรมชาติ ความสะดวกสบายของเกาะสมุยยังผสมผสานด้วยศิลปวัฒนธรรมของชาวพื้นถิ่น ที่ยังคงเป็นรากฐานของความเป็นมาของชุมชนอีกหลายแห่งบนเกาะ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่เคยไปสมุยมาแล้วต้องหวนกลับไปอีกครั้งแล้วครั้งเล่า อ๊ะ ๆ อาหารทะเลสด ๆ ก็เป็นอีกเสน่ห์ที่ชวนให้นึกถึงเหมือนกัน





15. เกาะเสม็ด


ในปี 2556 ชื่อของ เกาะเสม็ด คงกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น หลังเกิดเหตุการณ์ท่อน้ำมันดิบกลางทะเลรั่วไหล ส่งผลให้น้ำมันดิบจำนวน 50,000 ลิตร ไหลลงสู่ทะเลระยอง จากนั้นกระแสคลื่นลมแรงได้ทำให้คราบน้ำมันทะลักเข้ามายังชายฝั่งอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด แต่ทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง ชาวบ้าน และอาสาสมัครต่างก็ช่วยกันฟื้นฟูจนทำให้อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด กลับมาน่าเที่ยวเหมือนเมื่อวันวาน น้ำทะเลยังคงใสสะอาดและน่าเล่นเช่นเคย สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่น คือ ชายหาดต่าง ๆ เช่น หาดทรายแก้ว อ่าวน้อยหน่า อ่าวลูกโยน อ่าวไผ่ อ่าวพุทรา อ่าวทับทิม อ่าวลุงดำ อ่าวช่อ ฯลฯ นอกจากนี้ เกาะเสม็ดยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก มีที่พักหลากหลายรูปแบบจำนวนมาก ราคาไม่แพง จึงถือเป็นเกาะเปี่ยมเสน่ห์และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบอีกแห่งหนึ่งในปัจจุบัน





 16. ภูกระดึง


สักครั้งในชีวิตต้องพิชิต ภูกระดึง จังหวัดเลย เราเชื่อว่านี้คือหนึ่งในกิจกรรมเดินเขาประมาณ 5 กิโลเมตร ของใครหลาย ๆ คน เพราะเสมือนการพิสูจน์และท้าทายความสามารถของตัวเอง (เส้นทางขึ้นภูกระดึง ทางขึ้นค่อนข้างชัน แต่จะมีจุดแวะพักที่ “ซำ” หมายถึง บริเวณที่มีแหล่งน้ำใต้ดินผุดขึ้นมา แต่ละจุดมีเครื่องดื่มและอาหารบริการ) สถานที่แห่งนี้นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย เพราะมีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ประกอบด้วยระบบนิเวศและภูมิประเทศหลากหลาย ทั้งทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ น้ำตก และหน้าผาชมทิวทัศน์ แถมเมื่อได้ไปถึงบนยอดภูกระดึงแล้ว ยังจะได้สัมผัสกับความธรรมชาติ เช่น ผาหล่มสัก ลานหินกว้างและมีสนต้นใหญ่อยู่ใกล้กับชะง่อนหินที่ยื่นออกไปจากหน้าผา เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกได้ชัดเจนที่สุด, ผานกแอ่น จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น สามารถมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างซึ่งเป็นท้องทุ่งและเทือกเขา และชมต้นเมเปิลที่ต่างพากันผลัดใบในป่าปิด เปลี่ยนเฉดสีจากเขียวกลายเป็นสีแดงท่ามกลางลมหนาว สวยงามน่าประทับใจ


17. เชียงราย


เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง…นี่คือคำขวัญของ จังหวัดเชียงราย ดินแดนแห่งขุนเขาและเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน จังหวัดนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้บนดอยสูงที่สลับซับซ้อน เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำและน้ำตกอันงดงามหลายแห่ง อีกทั้งเชียงรายยังมีประชากรหลายเชื้อชาติ ทั้งชาวไทยพื้นราบ ชาวไทยภูเขา และชาวจีนฮ่อที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่บนดอยสูง แต่ละชนชาติจะมีประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่มีเอกลักษณ์ เป็นเสน่ห์อีกอย่างที่ทำให้เชียงรายได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายรูปแบบ เช่น วัดพระธาตุดอยจอมทอง, วัดพระสิงห์, วัดพระแก้ว, วัดร่องขุ่น, เมืองโบราณเชียงแสน, ภูชี้ฟ้า, ผาตั้ง ดอยแม่สลอง, ดอยตุง, ไร่บุญรอด และสามเหลี่ยมทองคำ ฯลฯ






18. น่าน


เพราะผู้คนอยากหลีกหนีจากความวุ่นวายไปแสวงหาความเงียบสงบ จึงไม่ต้องแปลกใจเลยที่ “น่าน” ดินแดนในอ้อมกอดของขุนเขาด้านตะวันออกของภาคเหนือจะกลายเป็นจังหวัดในใจใครหลาย ๆ คน นอกจากนี้ น่านยังอุดมไปด้วยธรรมชาติผืนป่า สายน้ำ ทะเลหมอก หล่อหลอมรวมกับวิถีวัฒนธรรมของผู้คนชาวไทยลื้อ ทำให้เสน่ห์ของน่านไม่ได้มีเพียงธรรมชาติอันพิสุทธิ์ แต่ยังมีศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ที่แฝงด้วยแรงศรัทธาในพุทธศาสนา และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปเยี่ยมชมหลายรูปแบบ ทั้งวัดวาอาราม โบราณสถาน แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น วัดพระธาตุแช่แห้ง, วัดพระธาตุช้างค้ำ, วัดภูมินทร์, อำเภอบ่อเกลือ, อุทยานแห่งชาติศรีน่าน, อุทยานแห่งชาติขุนสถาน และอุทยานแห่งชาติภูคา เป็นต้น ใครที่ชอบวิถีเรียบง่ายไม่ควรพลาดเลย




 

19. กาญจนบุรี



กาญจนบุรี คือ ดินแดนแห่งธรรมชาติ อันอุดมสมบูรณ์ด้วยผืนป่า พรรณไม้ โถงถ้ำ น้ำตก และประเพณีวัฒนธรรมอันหลากหลายของผู้คนหลากเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างเอื้ออารี ทั้งไทย พม่า มอญ ปกากะญอ (กะเหรี่ยง) ฯลฯ ยิ่งไปกว่านั้น กาญจนบุรียังเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะเหตุการณ์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีอนุสรณ์สถานหลายแห่งปรากฏให้เห็นเป็นหลักฐาน เช่น สะพานข้ามแม่น้ำแคว, สุสานทหารสัมพันธมิตร และพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด ฯลฯ ด้วยความหลากหลายของพื้นที่และเรื่องราวที่สั่งสมอยู่ในจังหวัดชายแดนตะวันตกแห่งนี้ กาญจนบุรีจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกสไตล์ ทุกวัย และทุกฤดูกาล



 
20. พัทยา


ปิดท้ายกันที่ พัทยา จังหวัดชลบุรี เมืองที่มีสีสันตลอด 24 ชั่วโมง แถมยังมีชื่อเสียงโด่งดังกลายเป็นชายหาดตากอากาศยอดนิยมอันดับหนึ่งของภูมิภาค และเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่ผู้คนนับล้านจากทั่วทุกทวีปต้องการมาสัมผัส รวมทั้งยังเป็นจุดหมายยอดนิยมอันดับต้น ๆ สำหรับการท่องเที่ยวและพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ของคนกรุงเทพฯ มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะนอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลากหลายรูปแบบ มีกิจกรรมท่องเที่ยวนานาชนิดให้เลือกทำ มีที่พัก รีสอร์ท และโรงแรมชั้นนำมากมาย การคมนาคมสะดวกสบาย ทั้งยังสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี จึงถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด เช่น หาดพัทยา, หาดนาจอมเทียน, เกาะล้าน, ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา, วัดเขาชีจรรย์, สวนนงนุช, พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาหมี, มิโมซ่า พัทยา และ Art in Paradise พัทยา ฯลฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น